โทษและประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์
เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “โทษและประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์”
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นทั้งของทานเล่นให้โปรตีนชั้นดี ทั้งยังสามารถทำมาเป็นวัตถับในการทำอาหารทั้งเมนูข้าวหวาน ถึงแม้ว่าในเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ก็มีโทษที่ต้องระวังเช่นกัน
1 อุดมไปด้วยธาตุทองแดง จึงช่วยบำรุงเส้นผมและผิวหนังได้เป็นอย่างดี ทองแดง และเหล็กในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยังทำงานร่วมกันในการช่วยให้ร่างกายสร้าง และใช้งานเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยให้เส้นเลือด เส้นประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน และกระดูกแข็งแรง ทำงานเป็นปกติ
2 เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีลูเทอิน และซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หากรับประทานสม่ำเสมอในปริมาณที่สูง สารเหล่านี้จะช่วยป้องกันการทำลายดวงตาจากแสงและอาจจะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคต้อกระจกได้
3 เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นอาหารที่ดีต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะมีสารอาหารสำคัญอยู่มาก เช่น ไขมันชนิดดี กากใยอาหาร โปรตีน รวมถึงกรดอะมิโนอย่างอาร์จีนีน โดยสารเหล่านี้อาจช่วยให้ผนังหลอดเลือดขยายตัว และลดการสะสมของไขมันชนิดไม่ดีที่อาจอุดตันหลอดเลือดหัวใจได้
4 มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิต ช่วยผ่อนคลายหลอดเลือด และต้านผลของการทานโซเดียมที่มากไป
5 เม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมีน้ำมันมากและให้พลังงานสูง จึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือครั้งหนึ่งไม่เกิน 10 เม็ด บางรายอาจรับประทานเแล้วเกิดอาการแพ้ โดยมีอาการเช่น มีอาการบวมที่ใบหน้าและคอ มีผดผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียนหรือท้องเสีย
6 ในผู้ป่วยเบาหวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รับประทานจึงควรหมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
7 หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรศึกษาการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เนื่องจากไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่มากพอ