เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 15 เม.ย. 67

ความแตกต่างของบวบแต่ละสายพันธุ์

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ความแตกต่างของบวบแต่ละสายพันธุ์”

บวบมีประโยชน์ทุกสายพันธุ์ แต่จะมีคุณสมบัติโดดเด่นมากน้อยต่างกันไป  บวบเป็นผักเป็นอีกหนึ่งชนิดที่เป็นแหล่งของวิตามินซีที่สามารถละลายในของเหลวในร่างกาย และยังช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยในการควบคุมอาหารได้ เพราะมีน้ำมาก กินแล้วอิ่มเร็ว

 นอกจากนี้ สารอาหารสำคัญในบวบคือ ซีตินและลูทีนยังช่วยปรับปรุงการมองเห็นและปกป้องดวงตาจากแสงแดด รวมไปถึงมีแมงกานีสที่มีส่วนในการดูแลเนื้อเยื่อและมีความสำคัญในการสร้างคอลลาเจน

 “บวบเหลี่ยม”  มีความเหลี่ยมที่ผิว รูปทรงของผลก็จะมีทั้งพันธุ์เบาผลเล็กสั้น ขนาดยาวไม่เกิน 12 นิ้ว และยังมีพันธุ์หนัก ชนิดผลยาวประมาณ 2 ถึง 3 ฟุต  คุณค่าสารอาหาร มีแคลเซียม วิตามินเอเล็กน้อย มีวิตามินซีปานกลาง มีฟอสฟอรัสสูง

“บวบหอม” ชนิดผลสั้นจะมีลักษณะกลมรี ความยาวประมาณ 5 ถึง 6 นิ้ว และชนิดผลยาว ลักษณะกลมรี ความยาวของผลประมาณ 24 นิ้ว มีวิตามินซีสูงกว่าชนิดอื่น

 “บวบงู” มีทั้งชนิดสีขาวและสีเขียวลายขาว เนื้อหนา ให้รสหวานดี ผลยาวประมาณ 2 ถึง 3 ฟุต  มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าสายพันธุ์อื่น

 ในบรรดาบวบ 3 พันธุ์นี้ พันธุ์ที่นิยมมากคือ บวบเหลี่ยม  เพราะให้ผลผลิตที่หากินได้ทั้งปี แต่ถ้าเป็นบวบหอม จะให้ผลผลิตเฉพาะฤดูฝน สำหรับบวบงู จะให้ผลผลิตมากในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นเอง ส่วนรสชาติเนื้อสัมผัสค่อนข้างใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับชอบกินแบบไหน และเจอบวบพันธุ์ที่ว่าในช่วงฤดูกาลใด