เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 17 ก.ค. 67

เรื่องของมะกอกโอลีฟ

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เรื่องของมะกอกโอลีฟ”

มะกอกโอลีฟมีหลายสายพันธุ์ แบ่งเป็น มะกอกเขียวและมะกอกดำ ซึ่งเป็นผลมาจากมะกอกต้นเดียวกัน โดยมะกอกเขียวถูกจะเก็บเกี่ยวเมื่อผลมะกอกยังดิบอยู่ ส่วนมะกอกดำจะเป็นผลที่เก็บเกี่ยวเมื่อผลสุกบนต้น เนื้อของมะกอกเขียวจะมีความแน่นมากกว่าและมีความขมมากกว่า ส่วนมะกอกดำนั้นมีความนุ่มมากกว่า มีรสขมน้อยกว่าและมีประโยชน์มากกว่า มีโอเมก้าสูง มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่ามะกอกสีเขียว

-มะกอกเขียวมีเนื้อแน่น จึงนิยมนำมาทำคอกเทล  ส่วนมะกอกดำที่เริ่มมีสีคล้ำออกม่วง ๆ นิยมใส่ในสลัดและเป็นเครื่องเคียงอาหารสไตล์ยุโรป มีกลิ่นหอมอ่อนๆและรสขมเฝื่อน  

-มะกอกโอลีฟเป็นมะกอกที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันโอลีฟ ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ โอเมก้า 9 สูง สำหรับมะกอกสีดำ จะเป็นมะกอกที่สุกแล้ว จึงมีปริมาณน้ำมันมากกว่ามะกอกสีเขียวหรือสีม่วง ซึ่งยังเป็นมะกอกที่ดิบอยู่ ดังนั้นมะกอกดำก็จะมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่งกายสูงกว่ามะกอกสีอื่นๆ  ส่วนเนื้อมะกอกจะมีรสฝาด เพราะมีสารอัลคาลอยด์ ดังนั้น จึงนิยมนำไปดองเกลือก่อนรับประทาน เพื่อเพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้น

ผลมะกอกโอลีฟดอง สามารถแบ่งได้คร่าวๆดังนี้

– มะกอกบ่มด้วยน้ำสะอาด สำหรับการดองมะกอกสีเขียว ช่วยให้รสขมหายไป หลังจากแช่น้ำเปล่า 1 สัปดาห์ก็เติมน้ำเกลือ พร้อมกับแช่เย็นก่อนรับประทาน

– มะกอกโอลีฟดองในน้ำเกลือ เพื่อให้รสขมจางหาย และปรุงด้วยน้ำส้มสายชูหรือไวน์แดง

– มะกอกโอลีฟดองเกลือแบบแห้ง นิยมใช้มะกอกดำดองกับเกลือไว้ในกล่องไม้ รองกับแผ่นพลาสติกเพื่อให้ความขมจางหาย

-มะกอกเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง  จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้บางประเภท มะกอกมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลไม่ดีได้  และยังมีโพลีฟีนอลที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย  สารในมะกอกยังช่วยเพิ่มการไนตริกออกไซด์ที่จะส่งเสริมให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น