เคล็ดลับเกี่ยวกับมะเขือ
เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เคล็ดลับเกี่ยวกับมะเขือ”
มะเขือคู่ครัวไทย ทั้งมะเขือยาว มะเขือเปราะ และมีมะเขือหลากหลายสายพันธุ์ ที่คนไทยนิยมรับประทาน มักเห็นได้หลากหลายเมนู การเลือกมะเขือมาทำอาหารมีวิธีดู และการจัดการดังนี้
1 วิธีเลือกมะเขือเปราะว่าอ่อนหรือแก่ ให้สังเกตที่ขั้วผลที่มีลักษณะคล้ายหมวก หากขั้วผลมีลักษณะหนาอวบ จะเป็นมะเขืออ่อน ส่วนมะเขือแก่ขั้วผลจะบางและส่วนปลายจะแห้ง
2 วิธีเลือกมะเขือยาว ให้สังเกตดูตรงกลีบเลี้ยงที่หมวกมะเขือเช่นกัน มะเขืออ่อน กลีบจะเลี้ยงยาวหุ้มแนบผลมะเขือ ถ้ามะเขือแก่ กลีบเลี้ยงจะสั้น และให้สังเกตุดูจากทรงของมะเขือด้วย ถ้าขนาดเท่าๆกันทั้งหัวและท้าย จับปลายเขย่าแล้วมีความอ่อนตัว แสดงว่าเป็นมะเขืออ่อน แต่ถ้าตรงปลายอ้วนหรือป่องออกมา เขย่าแล้วแข็งแสดงว่าเป็นมะเขือแก่ เม็ดเริ่มแก่
3 การเตรียมมะเขือในการทำอาหาร ทั้งมะเขือเปราะและมะเขือยาว ควรหั่นมะเขือแล้วแช่ในอ่างน้ำเกลือเจือจาง เพื่อไม่ให้เนื้อมะเขือเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ หรือเมื่อหั่นแล้วควรผัดทันที
4 เวลานำมะเขือไปใส่ในแกง ต้องใส่ตอนน้ำแกงเดือด และให้ท่วมมะเขือด้วย ถ้าส่วนไหนโผล่ออกจากน้ำ สังเกตว่าสีจะคล้ำกว่าส่วนที่จมน้ำ เพราะสุกไม่ทั่วทั้งลูก
5 หากทานมะเขือเปราะมากเกินไป สารโซลานีนในมะเขืออาจจะตกค้างสะสมและไปรวมกับไขมันเลวตามร่างกาย จากนั้นก็จะไปเกาะอยู่ตามข้อ ตามกระดูก ทำให้ปวดขา ปวดแขน และเป็นตะคริวได้ แต่จริงๆ แล้วสารนี้ยังพบได้ในผักสดอีกหลายชนิด ซึ่งไม่ควรกังวลจนหยุดทาน เพราะหากทานในขนาดปกติจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย แต่ถ้าหากใครเป็นโรคเก๊าต์ โรครูมาตอยด์ หรือปวดตามข้ออยู่แล้ว แนะนำว่าให้ทานมะเขือเปราะดิบแต่น้อย ถ้าทานแล้วมีอาการปวดก็นำมาปรุงสุกแทน