ครัวคุณต๋อย

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ประโยชน์จากพาร์สลีย์ (Parsley)”

พาร์สลีย์  (Parsley)  มีทั้งแบบใบหยิกและใบแบน ซึ่งส่วนใหญ่มักนำแต่งกลิ่น ปรุงรส หมักอาหาร และประดับจานแต่ประโยชน์ของพาร์สลีย์มีมากกว่านั้น  โดยพาร์สลี่ย์ 1 ถ้วย จะมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าแคร์รอตหัวใหญ่ 1 หัว มีวิตามินซีมากกว่าส้มลูกหนึ่งเกือบ 2 เท่า มีวิตามินอีเท่ากับน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ มีแคลเซียมมากกว่านม 1 แก้ว มีธาตุเหล็กมากกว่าตับที่มีน้ำหนักเท่ากัน มีโปรตีนมากกว่าเต้าหู้ขาว 1 ชิ้น มีเส้นใยมากกว่าข้าวโพด 1 ฝักถึง 15 เท่า และยังเป็นผักที่มีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 6 สูง  

– ช่วยบำรุงกระดูก พาร์สลีย์มีปริมาณของวิตามินเคสูงมาก และยังมีแคลเซียมสูง จึงอาจเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกและลดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกได้ในเวลาเดียวกัน   

-บำรุงสายตา เพราะเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทแคโรทีนอยด์  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสรรพคุณบำรุงสายตา อย่างเบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน โดยเบต้าแคโรทีนจัดเป็นวิตามินเอชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเยื่อบุตาขาวและกระจกตา ส่วนลูทีนและซีแซนทีน พบว่าสารทั้ง 2 ชนิดนี้ มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของดวงตาจากอายุที่มากขึ้น จึงอาจลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก รวมถึงโรคตาชนิดอื่น ๆ

– ต้านมะเร็ง Parsley นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่โดดเด่นและอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้ ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ ที่พบถึง 2 ชนิดด้วยกัน รวมถึงสารอะพีจินีน ที่ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้  และยังมีวิตามินซีที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้หลายชนิด

– ช่วยบำรุงหัวใจ  Parsley อุดมด้วยโฟเลทที่เชื่อกันว่าอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้  มีธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง  นอกจากนี้ พาร์สลี่ย์ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของไต ทั้งในเมล็ดและทั้งต้นมีสารขับปัสสาวะ แก้โรคหอบหืด ลดอาการไอ ขับเสมหะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารและแก๊สในทางเดินอาหารเป็นไปด้วยดี ลดอาการปวดเสียด