เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 25 ต.ค. 67

เคล็ดลับการเลือกและเก็บฟักทอง

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เคล็ดลับการเลือกและเก็บฟักทอง”

ฟักทองเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ไฟเบอร์ เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ที่สำคัญยังให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย กากใยสูง เหมาะกันคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หากเลือกถูกวิธี เก็บรักษาถูกต้อง จะช่วยให้รสชาติดีและได้ประโยชน์เต็มที่

1 การเลือกฟักทอง ควรลวกที่เนื้อมัน เหนียวหนึบ ปรุงสุกแล้วเนื้อไม่เละ ต้องมีเนื้อแก่พอดี การเลือกที่ถูกต้อง ให้สังเกตดังนี้

2  สังเกตลักษณะภายนอก ฟักทองแก่จะมีรูปทรงกลมค่อนข้างแบน ผิวของเปลือกมีสีเข้มและขรุขระ หัวจุกของฟักทองมีร่องลึกและรอยปุ่ม ภายในผลฟักทองเนื้อแน่นควรมีน้ำหนักไม่เกิน 3-5 กิโลกรัม

3 สังเกตสี ฟักทองต้องมีสีเหลืองอมเขียวและสีเขียวขี้ม้ากลมกลืนแทบจะเป็นสีเดียวกันไปทั้งผลจนถึงขั้วจุก

4 ฟังเสียง เคาะเปลือกฟักทองเพื่อฟังเสียงถ้าดังแบบเปาะ ๆ แสดงว่าเนื้อข้างในยังอ่อนอยู่ แต่ถ้าฟักทองแก่แล้วจะมีเสียงทึบ ๆ ตัน ๆ เพราะเนื้อฟักทองแน่น

5 เคล็ดลับเก็บฟักทองให้ได้นาน   ไม่เน่าเสีย และไม่เสียคุณค่าทางโภชนาการทำได้ 2 วิธี

6 นำเนื้อฟักทองที่เหลือจากการปรุงอาหารไปต้มให้สุกพอประมาณแล้วเก็บใส่ช่องแช่แข็ง

7 นำปูนแดงที่กินคู่กับหมากพลูมาทาบริเวณเนื้อฟักทองที่ผ่าแล้วให้ทั่วจะช่วยป้องกันเชื้อรา แมลงตอม และรักษารสชาติเนื้อฟักทอง สามารถวางไว้ในอุณหภูมิห้องได้เลย เมื่อจะนำไปปรุงอาหารก็เพียงฝานส่วนที่ทาปูนแดงทิ้งไป

8 ฟักทองมีฤทธิ์อุ่น หากกินมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม จะทำให้รู้สึกกระหายน้ำบ่อย หิวง่าย เพราะฟักทองจะไปกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นนั่นเอง