ครัวคุณต๋อย

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคาเฟอีน”

คาเฟอีนจัดเป็นสารอัลคาลอยด์กลุ่มหนึ่ง ที่พบได้ในธรรมชาติ จากเมล็ดกาแฟ ใบชา โกโก้ น้ำอัดลม เมื่อร่างกายได้รับคาเฟอีนจะส่งผลให้ไปขัดขวางสารสื่อประสาทที่ชื่ออะดีโนซีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เราง่วงนั้นไม่ทำงาน  ทำให้เรารู้สึกไม่ง่วงนั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีผลไปกระตุ้นสารสารสื่อประสาทที่ทำให้ร่างกายมีความสุข สงบ กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ตื่นตัวและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคซึมเศร้าได้ด้วย แต่ขณะเดียวกัน คาเฟอีน ก็มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น และ มีอาการใจสั่น กระวนกระวายใจ หงุดหงิด  

1 ภายใน 1 วัน เราควรได้รับคาเฟอีนไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งกาแฟ 1 ช้อนชาโดยส่วนใหญ่จะมีคาเฟอีนประมาณ 80 มิลลิกรัม ดังนั้นหากจะดื่มกาแฟเราจึงมีโควต้าต่อวันดังนี้

2 กาแฟดำ 1 แก้ว มีคาเฟอีนประมาณ 80 มิลลิกรัม จึงควรดื่มกาแฟดำได้ไม่เกิน 3-4 แก้วชงต่อวัน  กาแฟกระป๋อง จะมีคาเฟอีนประมาณ 150-160 มิลลิกรัม ต่อกระป๋อง  จึงควรดื่มไม่เกิน 2 กระป๋องต่อวัน  และกาแฟสด จะมีคาเฟอีนประมาณ 100 มิลลิกรัม ต่อแก้ว จึงควรดื่มไม่เกิน 3 แก้วต่อวัน

3 หากได้รับมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือมากกกว่าที่เคยได้รับปกติ อาจส่งผลทำให้เกิดอาการมือไม้สั่น ใจสั่น กระวนกระวาย หงุดหงิด หรือนอนไม่หลับได้

4 ส่วนคาเฟอีนสังเคราะห์ได้จากเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง บำรุงกำลังต่างๆ มีผลกระตุ้นเท่ากัน แต่จะดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วกว่า นั่นคือทำให้ผลแรงและเร็ว มีความเสี่ยงที่ผู้ดื่มจะมีอาการมือสั่น ใจสั่น ใจเต้นเร็ว ได้ง่าย และเร็วกว่าคาเฟอีนจากธรรมชาติ เพราะคาเฟอีนจากธรรมชาติ มีสารอื่นๆเช่น วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ทำให้การดูดซึมคงที่และคงตัวมากกว่า 

5 เวลาที่ควรเริ่มดื่มกาแฟได้ดีคือ ในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะในชั่วโมงแรก ร่างกายเราจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายตื่นตัว แต่หลังจากนั้นจะลดลง  ถ้าเราตื่นนอนช่วง 6.30 – 8.00 น. ควรดื่มกาแฟในช่วงประมาณ 9.00 – 11.00 น.และสามารถดื่มได้อีกในช่วงบ่าย แต่ควรเว้นว่างจากเวลาก่อนนอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้คาเฟอีนไปรบกวนการนอนหลับ