ครัวคุณต๋อย

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ข้อควรระวังในการรับประทานบีทรูท”

การรับประทานบีทรูทในปริมาณปกติ ที่พบได้จากอาหารค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่อาจทำให้ปัสสาวะและอุจจาระเป็นสีแดงหรือชมพูหลังจากรับประทาน โดยเป็นอาการที่เรียกว่าบีทูเรีย ซึ่งจะไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย ส่วนข้อควรระวังในบุคคลกลุ่มอื่น มีดังนี้ 

1  บีทรูทอาจส่งผลให้ระดับแคลเซียมลดต่ำลงและกระทบต่อการทำงานของไต ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับไตหรือระดับแคลเซียมในร่างกายอาจมีอาการแย่ลงได้  โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง   เนื่องจากส่วนประกอบบีเทน ในบีทรูท จะส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้่นของระดับคอเลสเตอรอล ในร่างกาย

2  หญิงที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานบีทรูทในปริมาณมากหรือการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาโรค เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัย

3  ภายในน้ำบีทรูท มีส่วนประกอบของ ไนเตรท โดยจะถูกเปลี่ยนเป็น สารไนตริกออกไซด์ ภายในร่างกาย ซึ่งจะมีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และส่งผลต่อการลดลงของระดับความดันโลหิต คนที่มีความดันโลหิตต่ำไม่ควรดื่มน้ำบีทรูทเป็นประจำ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ความดันโลหิตลดต่ำลง

4 บีทรูทมีออกซาเลต อยู่ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่อาจตกผลึกในปัสสาวะจนกลายเป็นก้อนนิ่ว ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไต จึงควรดื่มด้วยความระมัดระวัง

 5 อาจทำให้มีอาการอาเจียน , ปวดท้องกระเพาะอาหาร หรือ ท้องเสีย ในบางคน โดยเกิดจากส่วนประกอบ บีเทน ในบีทรูท ที่ช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้เติบโต  

6 น้ำบีทรูทมีผลต่อเส้นเสียง โดยจะส่งผลให้มีความรู้สึกหนักๆ ภายในลำคอ และก่อให้เกิดความรู้สึก พูดลำบาก โดยภาวะนี้เกิดจากการบริโภคที่มากเกินไป ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยการบริโภคบีทรูท ร่วมกับน้ำผักชนิดอื่น ๆ